หลังจากสมัคร Wait-list ไปตั้งแต่ช่วงงาน LevelUp 2023 เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในที่สุดวันนี้ ก็มีป๊อปอัปที่น่าตื่นเต้นแจ้งว่า “สามารถ Switch ไปใช้งาน ClickUp 3.0 ได้แล้ว” ซึ่งผมรีบกดเปลี่ยนโดยพลัน 😆 ซึ่งสิ่งที่ผมรอคอยที่สุด ในด้านการ New Design ก็คือส่วน Footer เนื่องจากแบบเดิมผมใช้ Task Tray แล้วมันไปบังชื่องานเวลาใช้ Gantt ตอนที่แสดงงานจำนวนเยอะ นอกจากนี้ผมเองก็อยากใช้งาน Task Tray ได้เหมือน Taskbar บน Window ด้วยเพราะมันเป็นความรู้สึกที่เคยชินมากๆ (เมื่อดูจากภาพต้นแบบแล้ว ผมเดาว่าน่าจะต้องเป็นแบบนั้น)
และส่วนในด้านการเพิ่ม Productivity ที่ผมรอคอยมากที่สุดก็คือ Real-time updates แต่ก็เผื่อใจไว้แล้วว่าน่าจะยังไม่ได้ในเร็ววัน เพราะเป็นการปรับแก้ในระดับโครงสร้างระบบ ซึ่งน่าจะออกท้ายๆ สุดๆ ซึ่งก็เป็นตามคาดครับ
ภาพด้านล่างนี่คือ สิ่งที่ ClickUp แจ้งมานะครับว่ามีอะไรอัปเดตให้แล้วบ้าง

โดยในด้าน 3.0 Experience จะเหลือแค่ 3 เรื่องที่ยังไม่อัปเดตคือ
- Home 3.0 : แอบอยากเห็นเร็วๆ เหมือนกัน
- Task Types : อันนี้อยากลองเล่นมากๆ เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่น่าจะมีประโยชน์มากๆ ซึ่งมาช่วยในการปรับไอเทมต่างๆ ได้มากกว่าแค่การใช้ Custom Fields
- Universal Search : ในเรื่องนี้ต้องรอดู เพราะทุกวันนี้ก็ค้นหาได้หลากหลาย และง่ายอยู่แล้ว ต้องรอดูของจริงในอนาคต ว่าจะมีอะไรเจ๋งขึ้นไปอีก
ส่วนด้านโครงสร้างหรือ 3.0 Infrastructure นั้นก็ต้องรอต่อไปครับ ซึ่งมี 4 เรื่องด้วยกัน
- Incredible uptime (การเพิ่มความเสถียรของระบบ) : 2 ปีกว่า ก็ยังไม่เคยเจอ downtime (ระบบล่ม) จนเข้าใช้งานไม่ได้เลย มีแค่ บัค 1-2 ครั้ง แต่ถ้า uptime ขึ้นไปอีกได้ก็สบายใจขึ้นไปอีกครับ
- Freaky fast (ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น) : อันนี้ก็อยากให้เร็วขึ้นไปอีกจริงๆ ครับ เพราะบางครั้ง ก็มีหน่วงๆ ช้าๆ บ้าง เช่น ตอน duplicate task หรือ automations ต่างๆ
- Real-time update (ไม่ต้องคอยกด refresh ในบางหน้าอีกต่อไป) : อันนี้มักเป็นปัญหาที่น่าหงุดหงิดใจมากเหมือนกัน เพราะบางจุดมันไม่ยอมอัปเดตให้ เช่น บาง View สร้าง Task ใหม่ไปแล้วไม่ขึ้น ต้องกด refresh ถ้าไม่ต้องกดอีกต่อไปคือสวรรรค์เลยครับ
- Reliable reporting (การรายงานผลที่น่าเชื่อถือมากขึ้น) : ในส่วนนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะปรับให้น่าเชื่อถือขึ้นในจุดไหนของการ report ต้องรอดูกันครับ
ต่อไปมาดูที่อัปเดตแล้ว กันเถอะครับ 💨
สิ่งที่ ClickUp 3.0 อัปเดตครั้งที่ 1 มีดังนี้
ผมจะขอเขียนเสริมเฉพาะอะไรที่มันแตกต่างจากที่ผมเขียนไว้แล้วในบทความ ClickUp 3.0 นะครับ เพื่อเนื้อหาจะได้ไม่ซ้ำและน่าเบื่อ ดังนั้นผมแนะนำให้ไปอ่านบทความ ClickUp 3.0 นี้ก่อนจะทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ
New Footer
มาเริ่มที่เรื่องแรก ด้วยเรื่องที่ผมรอคอย (เองคนเดียว) เพราะเล่าให้คนอื่นในบริษัทฟัง ก็ไม่ค่อยมีใครตื่นเต้นนัก 😂 คือเรื่องที่จะมี Taskbar (คำนี้ผมเรียกเอาเองนะครับ) ใน ClickUp ซึ่งถ้าใครไม่ได้ใช้ Task Tray เลย จะงง เพราะไม่มีในส่วนนี้ครับ มันจะกลายเป็นโล่งๆ เลย แถมมินิเมนูที่เคยอยู่มุมขวาก็หายไปหมดเกลี้ยงเลยด้วยครับ แต่ไม่ต้องตกใจนะครับ เขาย้ายไปอยู่ด้านบน เดี๋ยวผมจะพูดถึงในหัวข้อ Toolbar ครับ

จริงๆ ไม่ใช่แค่มินิเมนู แต่เมนูโปรไฟล์ที่เคยอยู่ด้านล่างซ้ายก็หายไปด้วย เรียกว่าโล่งจนน่าตกใจเลยครับ แต่มันก็ดูคลีนและน่าใช้ขึ้นสุดๆ เลย
ทีนี้มาดู Taskbar ที่ผมรอคอยกันบ้าง ก่อนอื่นก็ต้องไปสร้าง Task Tray มาก่อนนะครับ ซึ่งจะได้หน้าตาคล้ายๆ Taskbar ของ Window ที่ผมรอคอยเลย (แค่ชิดขวาแทน) 😍

และที่สำคัญผมต้องลองในหน้า Gantt เพื่อเช็คปัญหาที่เคยมี ก็ปรากฏว่า หายไปแล้วครับ Task Tray ไม่มาบังชื่องานอีกแล้ว เพราะแยกส่วนกันชัดเจน ไม่มาลอยๆ บังๆ กันให้รกตาครับ

และที่เห็นเป็นไอคอนหมุดเล็กๆ ที่มุมล่างขวา ก็มีไว้เพื่อซ่อน Taskbar นี้ได้นะครับ ซึ่งจะหดไปเหลือเล็กๆ ที่มุมดังภาพครับ

แต่ก็สามารถกดขยายเพื่อดูได้นะครับว่าเรามี Task Tray อะไรอยู่บ้าง

แต่มีเรื่องนึงที่ผมจินตนาการไว้ผิดคาด คือ ป๊อปอัป Task ยังคงบัง Tray อยู่ 😥

New Sidebar
การออกแบบสวย น่าใช้ มินิมอลขึ้นมาอีกเช่นกันครับ ซึ่งก็คล้ายๆ กับต้นแบบเลยครับ แต่จะต่างกันที่พื้นหลังจากสีขาวกลายเป็นสีเทาอ่อนๆ ซึ่งผมว่าน่าจะช่วยให้แบ่งแยกพื้นที่ระหว่างเมนู และพื้นที่ทำงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ

การเปลี่ยน workspace ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นมากครับ เพราะย้ายไปด้านบนทำให้ใช้งานง่าย และพื้นที่เดิมที่เคยอยู่ด้านล่าง ดูโล่งขึ้นสุดๆ

นอกจากนี้ ยังมีการนำเอาในส่วนของ Hidden Space ออกไปแล้วแทนที่ด้วย View All Spaces ซึ่งอยู่ในหัวข้อถัดไปครับ

All Spaces

ซึ่ง Space ที่เรา Leave ไปก็จะมารวมอยู่ใน All Spaces นี่ละครับ

ซึ่งเราก็สามารถ Join Space นั้นๆ กลับได้ครับ โดยมันก็จะไปแสดงที่เมนูด้านขวาเช่นเดิม ด้วยการกดปุ่ม Join ที่อยู่ใน Card ของ Space ดังรูปด้านบนครับ
หน้านี้จะเป็นหน้าใหม่ที่เข้าถึงได้ผ่าน เมนูด้านซ้าย ซึ่งจะเป็นหน้าที่รวบรวม Spaces ที่เราไม่ได้ใช้งานเอาไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เราจะใช้การ Hide space เอา แต่ตอนนี้จะเป็นการ leave Space แทน
Toolbar
เมนูด้านบนอันใหม่อันใหญ่นี้ ClickUp เรียกว่า Toolbar ซึ่งจะเป็นเมนูที่เด่นเป็นตระหง่าน เพราะพื้นหลังที่ดำมืด ตัดกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ที่ขาวจั๊ว ซึ่งก็ไม่มีอะไรต่างจากต้นแบบมาก นอกจากช่องเสิร์ชที่ย้ายมาตรงกลางและใหญ่สุดๆ ซึ่งปกติผมไม่ค่อยได้ใช้เพราะถนัดกด Ctrl+K

แต่อีกส่วนที่น่าสนใจบน Toolbar ก็คือ Quick Action Menu ที่มีการออกแบบดีกว่าต้นแบบที่เคยโชว์ไว้ในงาน LevelUp มากเลย ทั้งสีและไอคอน คลีนขึ้น มินิมอลขึ้น และดูน่าใช้งานมากขึ้น


และถ้าต้องการปักหมุด App ก็สามารถคลิกที่ไอคอนหมุด จากนั้น App นั้นๆ จะไปแสดงผลที่ Toolbar ดังภาพ

ส่วนปุ่ม ที่เคยอยู่มุมด้านขวาก็ได้ย้ายมาอยู่บน Toolbar

ซึ่งไม่ได้สร้างได้แค่ Task แต่ยังสร้าง Doc, Reminder, Chat และ Whiteboard ได้เลยด้วย ก่อนหน้านี้ต้องไปคลิกที่ มินิเมนูแล้วกดอีกครั้งจึงจะสร้างพวกนี้ได้
จะเห็นว่าป๊อปอัป New Task ที่เคยดูทื่อๆ รกๆ ก็ดูเรียบหรูน่าใช้งานยิ่งขึ้นด้วย💚 ด้านล่างคือภาพเวอร์ชั่นเก่า

Overview
Overview นี้คือการแสดงภาพรวมในรูปแบบ Card คล้ายๆ กับ Widget ในหน้า Dashboard ซึ่ง (Widget ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Card แล้วนะครับเมื่อ 1-2 เดือนก่อนนี่ล่ะครับ) โดยจะแสดงข้อมูลเป็น Card ต่างๆ ซึ่งมีให้ทั้ง Space และ Folder ดังนี้

Recent – แสดงไอเทมที่เราเพิ่งเข้าใช้งานมา เช่น Task, Folder หรือ Doc
Docs – จะรวม Docs ต่างๆ ไว้ใน Card นี้ ซึ่งดีมากๆ เลยครับ เพราะปกติถ้าจะเข้าถึง Docs ใน Space ที่มี Folder เยอะๆ Docs ที่อยู่ล่างๆ ต้องเลื่อนลงไปหา นอกจากช้าแล้วยังตาลายด้วย ดังภาพครับ

ซึ่งตอนนี้สามารถเข้าถึงง่ายๆ แบบนี้เลยครับ

Resource – ก็คือไฟล์ต่างๆ ที่เราต้องการเก็บไว้ในระดับ Level Space นั้นๆ ที่ผมใช้คำว่าระดับ Level Space เพราะไม่รวมไฟล์ในระดับต่ำกว่านั้นเช่น Folder นะครับ แต่ถ้าเราเข้าไปดู Overview – Resource นี้ในระดับ Folder ก็จะเห็นไฟล์ของ Folder นั้นๆ ครับ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการแชร์ไฟล์ที่ใช้งานร่วมกันสำหรับ Member ใน Space หรือ Folder นั้นๆ
Folder – Card นี้ก็จะแสดง Folder ที่อยู่ภายใต้ Space นั้นๆ ครับ
Hub
Hub นี้จะคล้ายๆ กับ Overview ครับ แต่จะแสดงผลเฉพาะในหน้า Docs, Dashboard และ Whiteboards (อยู่เมนูด้านซ้ายตอนบน) นี่คือตัวอย่าง Docs Hub ครับ

โดยสิ่งที่แตกต่างจาก Overview ก็คือ ไม่มีในส่วน Card Docs กับ Card Resource แต่จะเป็น Card Favorites และ Create By Me แทน
New List View
นอกจากหน้าตาที่สะอาดตามากขึ้นอย่างที่ได้พูดถึงไปแล้วในบทความ LevelUp รวมถึงที่บอกว่า ไอคอนสถานะเปลี่ยนจากเหลี่ยมเป็นวงกลมนั้น จริงๆ มีฟีเจอร์เจ๋งๆ ซ่อนอยู่ นั่นก็คือ ในวงกลมนั้นจะบอก % ความคืบหน้างานในรูปแบบ Pie chart ด้วย ยิ่งเต็มวงยิ่งคืบหน้าเยอะ 🔴

สามารถย่อและขยายในส่วน List View Header ได้ด้วย ซึ่งเดิมๆ จะคล้ายเวอร์ชั่น 2.0 คือแบบนี้

แต่เมื่อกดขยายที่ ไอคอนดังภาพ

จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมา

ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่ามีประโยชน์อะไร แต่พอนำเมาส์ไปวาง จะมีเมนูเพิ่มขึ้นมาอีก

ซึ่งเป็นการตั้งค่าคุณสมบัติพวก Assignee, Priority และ Due date ที่เหมือนกับที่ Task มี แต่อันนี้คือสำหรับ List ซึ่งผมเข้าใจว่า น่าจะเหมาะกับบางโครงการที่ใหญ่มากๆ ที่ไม่ได้ใช้แค่ Task และ Subtask แต่ใช้ทั้ง List เป็นหนึ่งโครงการไปเลย ซึ่งถ้าเกิดมีโครงการใหญ่หลายโครงการที่ใช้ List การระบุ Assignee, Priority และ Due date ก็จะมีประโยชน์มาก ในการระบุความสำคัญของโครงการใหญ่ว่า โครงการไหนสำคัญกว่ากัน
อีกปุ่มหนึ่งที่มีชื่อแปลกใหม่ก็คือ Customize ซึ่งแม้จะชื่อแปลกใหม่ แต่การทำงานนั้นก็เหมือนกับเอาปุ่ม Group by, Show และ ปุ่ม View Setting เดิมมารวมกันนั่นเอง

ปุ่ม Show และ ปุ่ม View Setting เดิมในเวอร์ชั่น 2.0

ในส่วนของช่อง Search และ Filter เมื่อกดจะแสดงเมนูสำหรับ Filter คล้ายๆ กับที่เคยใช้งานกันมา พร้อมช่องเสิร์ชที่ถูกย้ายมาอยู่ด้านขวา เรียกได้ว่าการเข้าใช้งานต้องมีขั้นตอนมากขึ้น 1 คลิก แต่สิ่งที่ได้มาก็คือ Header ที่สะอาดขึ้น
ก่อนคลิกช่อง Search หรือ Filter

หลังคลิกจะแสดงเมนู Filter และ ช่องค้นหา

ทางด้านมุมบนขวาสุด ปุ่ม Share และ Automation ก็ถูกปรับเล็กน้อย โดยมีการย้ายตำแหน่งและตัดคำว่า Automation ออกไปให้ดูเรียบง่ายขึ้น

จากภาพซ้าย ไปเป็น ภาพขวา

New Task
สำหรับ Task แบบใหม่นี้เรียกได้ว่าเป็นการปรับชุดใหญ่เลยก็ว่าได้ครับ เพราะมีทั้งด้านการออกแบบใหม่ และฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ ตามที่กล่าวถึงไปแล้วในหัวข้อ Rebuilt Task จากบทความ Clickup 3.0 มาดูกันครับว่าของจริงจะเป็นอย่างไร
จุดแรกเลย ที่ผมเข้ามาใช้จริงครั้งแรกแล้วรู้สึกขัดๆ ขาดๆ คือผม มองหา Subtasks ไม่พบ ทำให้รู้สึกว่า “อ้าว แล้วจะอ่าน Description ไปพร้อมกับดู Subtask อย่างไร?” เลยย้อนไปอ่านบทความที่ตัวเองเขียนไว้ตามลิงก์ในย่อหน้าก่อนหน้าว่า อ่อ เขามีเมนู Subtask ให้ที่ด้านซ้าย ซึ่งดูง่ายกว่าเดิมมากๆ ไม่ต้องเลื่อนลง เลื่อนขึ้นเหมือนเหมือนเมื่อก่อน 😋

และเมนู Subtasks นี้ก็ยิ่งมีประโยชน์ถ้าเป็น Nested Subtask (มี Subtask ซ้อน Subtask อีกที) เพราะการที่เราจะเข้าถึง Subtask ต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเลื่อนลงมาดูที่บริเวณด้านล่างเช่นกัน
สิ่งที่ผมชอบมากอีกอย่างคือ Navigation ที่มุมบนขวา ซึ่งมีหน้าที่ย้าย Task ไป ก่อนหน้า หรือ ถัดไป ซึ่งใช้งานง่ายขึ้นและเป็นมาตรฐานมากขึ้น (คล้ายกับของเว็บเบราว์เซอร์)

และภาพด้านล่างคือแบบเก่าสำหรับย้าย Task ในหน้า List ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทำให้มองยากและคุณอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามี รวมถึงเวลาจะย้ายจาก Task ก่อนหน้าไปยัง Task ถัดไปจะต้องเลื่อนเมาส์ข้ามหน้าจอไปอีกด้าน ทำให้เสียเวลา แต่แบบใหม่อยู่ติดกันเลย

และหากเป็นการย้าย Subtask ไปก่อนหน้า หรือ ถัดไป ก็ใช้ Navigation ตัวมุมบนซ้ายเช่นเดียวกัน ไม่เหมือนก่อนหน้าที่ทำได้แค่ ย้อนกลับไปหา Task แม่ดังภาพ

ซึ่งการย้อนกลับไปหา Task แม่ใน 3.0 ก็ยังมีอยู่นะครับ ไม่ได้หายไปไหน

ในส่วนของการ Comment เท่าที่ดู จากต้นฉบับใช้คำว่า Updates แต่ของจริงใช้คำว่า Activity

ส่วนแบบฟอร์ม Comment ก็ดูน่ารักกุ๊กกิ๊กขึ้นเยอะเลย

และเรื่องที่ตอนแรกอาจหา Watcher ไม่เจอ เพราะเปลี่ยนจากไอคอน ลูกตา เป็น ระฆัง ซึ่งดูเป็นมิตรขึ้น

นอกจากนี้ยังแก้ไข Watcher ได้ง่ายขึ้นด้วย โดยเฉพาะตอนที่ต้องการให้ตัวเองออกจากการเป็น Watcher ซึ่งก่อนหน้านี้จะต้องไล่หาโปรไฟล์ตัวเอง (ถ้ามี Member เยอะๆ) ทำให้ตาลายและเสียเวลา บางทีเผลอกดปิดของ Member คนอื่นเสียอีก

ส่วนในด้าน Layout ก็มีให้เปลี่ยนได้จริง 3 แบบตามที่ประกาศไว้เลยครับคือ
- แสดงผลแบบ Full Page
- แสดงผลแบบด้านข้าง
- คงค่าเริ่มต้นไว้เหมือนเมื่อก่อน (แสดงผลแบบป๊อปอัป)
Task View 3.0 ทาง ClickUp ใช้คำว่า BATA อย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่ายังต้องมีอะไรปรับแก้กันอีกมากครับ และถ้าใช้ไม่สะดวกก็สามารถปิดได้ที่หน้า My Setting ครับ

New Inbox
จากที่อธิบายไว้แล้วว่า Inbox จะกลับมา ซึ่งก็กลับมาจริงๆ ครับ และสิ่งที่ผมชอบที่สุดคือ มีการแยก Messages ออกจาก Activity ต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ ในหน้า Notification ของเวอร์ชั่น 2.0 จะรวม Activitiy ต่างๆ ไว้แจ้งเตือนในหน้าเดียวเลย คือใครเปลี่ยนสถานะงาน หรือ Assign งานเรา ก็จะรวมกันในหน้า Notifiaction เลย ซึ่ง 2 ส่วนนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือ เมื่อมีคน Comment หาเราเพื่อต้องการคำตอบอะไรบางอย่าง แต่ในหน้า Notification นั้นมีการแจ้งเตือนเต็มไปหมด แม้จะมี Filter ให้เลือกเฉพาะการแจ้งเตือนที่ @mention หรือ Assign แล้วก็ตาม แต่มันก็ทำให้หน้า Notification รกไปมากๆ เลย
ให้คุณลองนึกถึง Facebook ก็ได้ครับ ถ้าเขาไม่มีการแยก การแจ้งเตือนระหว่าง Message กับ Notification แบบนี้

แต่เป็นการรวมการแจ้งเตือนทั้งหมดไว้ในจุดเดียวคือ ใคร Message หาเราก็ไปอยู่ใน ไอคอน ระฆัง แบบนี้จะดูลำบากสักแค่ไหนครับ ดังนั้นเมื่อแยกเป็น Messages ออกมาก็ทำให้ใช้งานง่าย และเข้าใจง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
ในส่วนอื่นๆ ก็คล้ายๆ กับที่เคยเขียนไว้นะครับ แต่จะมีขัดใจตรงที่เวลาดู Activity ของ Task จะต้องมากดอีกครั้งเพื่อดูว่าเป็นการแจ้งเตือนอะไร คือต้องคลิกที่ชื่อ Task ที่ได้รับการแจ้งเตือนก่อน จึงจะดูรายละเอียดได้

ซึ่งถ้ามีปุ่ม Expand All จะดีมากๆ ครับช่วยให้ไล่ดูการแจ้งเตือนได้แบบไม่เสียเวลา แต่สำหรับ Inbox ก็มีคำว่า Beta ชัดเจนอีกเช่นกัน ซึ่งจะต้องมีการอัปเดตอะไรอีกเยอะแน่ หวังว่าจะเพิ่มในจุดนี้หรือทำให้ดีขึ้นครับ และก็ยังยอมให้กลับไปใช้ Notification เวอร์ชั่นเก่าได้ด้วยนะครับ ดังภาพ

ดังนั้น รอให้ไม่เป็น Beta แล้วมารีวิวใหม่น่าจะถูกใจมากขึ้นครับ
ClickUp AI
ในด้าน AI นั้น ClickUp จะเน้นไปที่การช่วยทำ Content ซึ่งผมลองแล้วยังไม่รองรับภาษาไทยครับ ตัวอย่างเช่น การช่วยสรุปเนื้อหาเช่น บทความ ต่อให้เราพิมพ์ข้อมูลเป็นภาษาไทย แต่เมื่อใช้งาน AI จะตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษครับ ผมเลยไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจังนักครับ (เพิ่มเติม)
Custom Field Manager
คุณสมบัติสุดท้ายที่ผมจะรีวิวก็คือ Custom Field Manager ซึ่งน่าจะเป็นคุณสมบัติที่ BETA มากที่สุด เพราะถึงขั้นปิดใช้งานไว้ในตอนแรก ถ้าต้องการใช้งานต้องมาเปิดเองที่ My Setting ครับ

ซึ่งสิ่งที่ผมอยากได้ที่สุดคือ การ Convert Custom Field จากชนิดหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะ Dropdown ไปเป็น Label หรือ Label ไปเป็น Dropdown เนื่องจากปัญหาที่ว่า ในตอนเริ่มต้นออกแบบ Workflow ผมกำหนดว่าฟิลด์นี้เลือกได้แค่ 1 ตัวเลือกจากหลายตัวเลือก เช่น หมวดหมู่สินค้า ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ชนิด Dropdown จึงเหมาะสุด จากนั้นผมก็เริ่มกรอกไปเรื่อยๆ จนกรอกไปหลายสิบอย่างแล้ว อย่างเช่นเรื่องการสร้างรายการสิ่งของด้วย ClickUp ที่ผมเคยพูดถึงไปแล้ว ซึ่งจะมีตัวเลือกเยอะมาก ดังภาพ

แต่พอกรอกไปจนเสร็จซึ่งก็ปาไป 20-30 ตัวเลือก แล้วถ้าเกิดผมพบว่ามีสินค้าบางชิ้นที่อยู่ได้มากกว่า 1 หมวดหมู่ล่ะ แบบนี้กลายเป็นว่าใช้ Label จะเหมาะสมที่สุด 😨 แล้วผมจะต้องทำไงล่ะ ก็ต้องไปสร้างฟิลด์ใหม่ แล้วกรอกใหม่หมดเลยครับ ทุกๆ ตัวเลือก 😱 และยิ่งถ้าคุณใส่สีไปแล้วด้วยก็แก้กันบานตะไทเลยครับ
แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้วครับมีพระเอกคือการ Convert Custom Fields มาช่วยครับ ซึ่งก็ทำได้ง่ายๆ ได้มาทั้งตัวเลือกและสีครบครัน อันนี้คือตัวอย่างนะครับ

เมื่อ Convert แล้วก็จะกลายเป็นแบบนี้ครับ

แต่มีปัญหาตรงที่ Labels ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น Dropdown ได้ ซึ่งผมเข้าใจว่าเขาป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับด้านโครงสร้างข้อมูล เพราะการแก้ไขการผูกข้อมูลแบบ 1 Task หลายตัวเลือก ไปเป็น 1 Task ตัวเลือกเดียว นั้นน่าจะส่งผลเยอะมากในระบบครับ คิดง่ายๆ ก็ถ้าผมเลือก Labels ชนิด Cat. A และ Cat. B ไว้ให้กับ Task หนึ่ง แต่ผมไป Convert ให้ฟิลด์นี้เป็น Dropdown ซึ่ง 1 Task เลือกได้ Cat. เดียว แบบนี้ระบบก็ไม่รู้ว่าจะเลือก Cat. ไหนกันแน่ระหว่าง A และ B ซึ่งการจะสร้างระบบแก้ไขได้อีกก็คงจะยุ่งยากน่าดู แต่ผมเดาว่าไม่แน่ เมื่อหมด BETA อาจจะไม่มีปัญหานี้ก็ได้ครับ

ข่าวดีอีกเรื่องที่ฟีเจอร์นี้แตกต่างคือ หากคุณยังไม่ได้ Join Waitlist หรือ Join แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ ClickUp 3.0 ได้ คุณก็ยังสามารถเปิดใช้งาน Custom Fields Manager ได้ที่ My setting ครับ ซึ่งจะอยู่ล่างสุดของหน้านั้นเลยครับ

ข้อมูลเรื่อง Custom Fields Manager เพิ่มเติม
สรุป
แต่สำหรับการปรับรอบนี้ถ้าพูดในมุมการใช้งาน สำหรับผมจะมีจุดที่ต้องปรับตัวจุดใหญ่ๆ เลยก็คือ การย้าย Time Tracking ไปไว้ด้านบน ซึ่งผมจะเผลอเลื่อนเมาส์มาตำแหน่งเดิมคือ มุมขวาล่างอยู่ตลอด 😅 แต่ใช้ไปสักพักก็คงชิน และส่วนสำคัญๆ เช่น Task 3.0 , Inbox และ Custom Field Manager ก็ยังอยู่ในขั้น BETA ทำให้ทุกๆ อย่างจะต้องดีและเสถียรขึ้นแน่เมื่อหมด BETA แต่ถ้าให้คะแนนประทับใจเต็ม 100 ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการออกแบบครับ สะอาด มินิมอล น่ารัก ซึ่งทำให้ดูใช้งานง่ายและน่าใช้ขึ้นมากๆ เลยครับ
อยากได้บทความเรื่องอะไร หรือ หัวข้อแนวไหน สามารถแนะนำกันมาได้ที่แบบฟอร์มนี้เลยครับ ซึ่งข้อมูลที่ส่งจากแบบฟอร์มนี้จะถูกไปสร้างเป็น Clickup Task และสั่งงานผม ให้อัตโนมัติเลยครับ